ในวันนี้เรามาไขข้อข้องใจเรื่องของกลูต้าไธโอน (Glutathione) กันค่ะ สาวๆ หนุ่ม ที่อยากจะขาวก็สงสัยกันว่ากลูต้าไธโอนนั้นช่วยให้ผิวขาวได้จริงมั้ย เรามาสอบถามคุณหมอ แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์กันค่ะ
กลูต้าไธโอนคืออะไร
กลูต้าไธโอนนั้นคือเนเชอรัลแอนตี้ออกซิแดนท์ (Natural Antioxidant) หรือสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ ไม่ใช่สารสังเคราะห์ทางเคมีอย่างที่เราคิดกัน หมายถึงว่าในร่างกายของคนเรานี้ในเซลล์มีกลูต้าไธโอน และร่างกายของเราสามารถสร้างเองได้ ในอาหารก็มีสารกลูต้าไธโอน ไม่ว่าจะเป็น ไข่ นม ผัก ผลไม้ บร็อคโคลี่ ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง มีทั้งนั้น
กลูต้าไธโอนนั้นมีหน้าที่สำคัญอยู่สามอย่าง
1. เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้านความเสื่อม
2. ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน หรืออิมมูน Immune
3. เป็นตัว detoxification คือเป็นตัวช่วยทำลายสารพิษให้กับตับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตับที่ถูกทำลายด้วยแอลกอฮอล์จากการดื่มสุรา หรือคนที่ทานยาพาราเซตามอลมากๆ
จริงๆ แล้ว ในการนำกลูต้าไธโอนมาใช้เริ่มต้นนั้นไม่ได้นำมาทำให้ขาว แต่นำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยนำมารักษาคนไข้ที่เป็นพาร์คินสัน ผู้สูงอายุที่มีอาการมือสั่น เนื่องมาจากมีการค้นพบว่าผู้ป่วยโรคพาร์คินสันมีระดับกลูต้าไธโอนในสมองต่ำมาก ต่อมาก็มีนำมาใช้เพื่อช่วยในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย เพราะว่าระดับของกลูต้าไธโอนก็ต่ำด้วย แพทย์ได้นำมาฉีดเพื่อรักษาโรคเหล่านี้ แต่ทีนี้มีการสังเกตว่าคนไข้เหล่านี้เมื่อฉีดกลูต้าไธโอนเข้าไปแล้วผิวขาวขึ้น เลยได้มีการศึกษาเจาะลึกลงไปอีกก็พบว่า กลูต้าไธโอนมีฤทธิ์ต่อต้านเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้เป็นตัวสร้างเม็ดสีผิว เม็ดสีผิวของคนเรานั้นมีอยู่สองชนิดคือ เม็ดสีน้ำตาลดำ เป็นตัวที่ทำให้ผิวมีสีเข้ม กับเม็ดสีน้ำตาลอ่อนปนสีชมพูหรือสีออกส้มซึ่งในคนยุโรปหรือคนที่อยู่แถบหนาวจะมีเม็ดสีนี้ที่ทำให้ผิวดูขาว สารกลูต้าไธโอนนี้จะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีน้ำตาลดำ ส่งผลให้คนไข้ที่ได้รับสารกลูต้าไธโอนนี้จะมีสีผิวที่ขาวขึ้น
ในปัจจุบันการนำกลูต้าไธโอนมาใช้มีหลากหลายวิธี รวมถึงการฉีด ซึ่งเป็นวิธีการที่อันตรายมากเพราะเป็นการฉีดเข้าเส้นเลือด ในการฉีดยาใดๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นยาอะไรนั้นไม่ควรจะฉีดในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยและไม่ควรจะฉีดกับบุคคลากรที่ไม่มีความรู้หรือผู้เชี่ยวชาญเพียงพอ ซึ่งตัวคนที่ถูกฉีดกลูต้าไธโอนเข้าไปนั้นอาจจะแพ้ตัวกลูต้าไธโอนเอง หรือแพ้สารวัตถุกันเสียที่อยู่ในตัวยา ซึ่งถ้าคนที่แพ้มากๆ แล้วได้รับยาไปในปริมาณมากๆ อย่างรวดเร็วอาจจะทำให้เกิดการช็อก อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งมีรายงานในต่างประเทศว่ามีคนเคยฉีดกลูต้าไธโอนแล้วไตวาย ซึ่งทางองค์การอาหารและยา หรือ อย.ของประเทศไทยไม่รับรองการฉีดกลูต้าไธโอน
กลูต้าไธโอนในรูปแบบของการรับประทานนั้น ทางอย.ของประเทศไทยนั้นอนุญาต แต่ว่าก็ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ที่แต่ละโดสไม่เกิน 250 มิลลิกรัม ซึ่งในการทานที่เหมาะสมก็คือวันนึงไม่ควรเกิน 500 มิลลิกรัม และให้แบ่งทานโดยต่อหนึ่งครั้งไม่ควรเกิน 250 มิลลิกรัม ซึ่งการทานเป็นระยะเวลานานๆ นั้นยังไม่มีรายงานว่าเป็นอันตรายใดๆ และมีการวิจัยของทางคณะแพทย์ศาสตร์จุฬา โดยใช้นิสิตแพทย์ 60 คน เป็นอาสาสมัครทานกลูต้าไธโอน โดยให้ทานเวลาเช้าเป็นปริมาณ 250 มิลลิกรัม เวลาเย็น 250 มิลลิกรัม ทานต่อเนื่องไปประมาณ 4 อาทิตย์ ก็พบว่ามีสีผิวขาวขึ้นจากการวัดด้วยเครื่องตรวจค่าสีผิว
คนที่รับประทานกลูต้าไธโอนอย่างปลอดภัยนี้ไม่ใช่ว่าจากผิวดำมาเป็นผิวขาวจั๊ว แต่ก็จะมีผิวที่ขาวขึ้นมาได้ประมาณ 2 เลเวล คือผิวจะดูสว่างขึ้นได้ด้วยการที่เม็ดสีผิวชนิดน้ำตาลดำนั้นจะน้อยลง แล้วเม็ดสีผิวชนิดน้ำตาลอ่อนอมชมพูมันมากขึ้น คือดูผิวใสและผ่องขึ้น
ที่มาจากรายการสโมสรสุขภาพ
ปรับผิวขาวขึ้น สุขภาพดี
รับเม็ดสีเมลานิน ด้วยกลูต้าแท้จากประเทศญี่ปุ่น
ลดสิว และ ปัญหาผด ผื่น
ช่วยลด และ ป้องกันปัญหา ฝ้า
ต่อต้านอนุมูลอิสระ ริ้วรอยช่วยลดปัญหาผิวด่าง กระด้าง
คืนความชุ่มชื่น ให้ผิวเด้งอิ่มน้ำ ดูขาวใส มีออร่า
รอยหลุม แผลเป็น จากสิวดูตื้นขึ้น ช่วยให้ผิวลื่น นุ่ม น่าสัมผัส
รีวิวจากลูกค้าที่ทานแล้ว
"กินมาก็เยอะน่ะมาเจอตัวนี้โอเคมากเลย เปิดกระปุกมาก็หอมมากจากที่เป็นคนผิวแห้งๆไม่ชอบทาครีมกินตัวนี้ไปรู้สึกชุ่มชื่นขึ้นประทับใจมากคะฝ่าลดลงแต่งหน้าแล้วดูไม่ลอยด้วยนะ ใช้ดีเลยมาบอกต่อนะคะ"
"ผิวลื่นขึ้นแต่งหน้าติด แก้มมีเลือดฝาดด้วยชอบมากคะ"
"ขาวไวมากจุดด่างดำจางลงเร็วด้วย เป็นกลูต้าที่กินแล้วดีสุดๆ กลิ่นหอม"
"ขาวไวมากคะไม่ได้ขาวแบบโบะๆด้วยคือผิวขาวแบบสดใสดูอมชมพูด้วยแก้มออกชมพูมีเลือดฝาด แถมสิวยุบเร็วมากคะกิน2เม็ดก่อนนอนวันที่มีสิวตื่นมาสิวยุบเลย และหอมด้วยเป็นตัวที่กินแล้วดีมี่สุดที่กินมาเลยคะ"
"ดีคะ รุ้สึกผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้นมากเลยคะ"
ดูรีวิวเพิ่มเติมคลิกเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น