กลูต้าไธโอน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูงเมื่อเทียบกับวิตามินซีหรือวิตามินอี จึงมีผู้นำกลูต้าไธโอนมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือใช้ฉีดเพื่อให้ผิวขาว โดยอาศัยกลไกการออกฤทธิ์ดังนี้
กลูต้าไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำ (ยูเมลานิน พบมากในคนเอเชียและนิโกร) เป็นเม็ดสีชมพูขาว (ฟีโอเมลานิน พบในคนตะวันตก) ซึ่งการกินยาหรือฉีดสารกลูต้าไธโอนมีผลทำให้สีผิวจางลงในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เมื่อหยุดการใช้ สีผิวก็จะกลับมาคล้ำเช่นเดิม ดังนั้นก่อนที่จะรับสารกลูต้าไธโอนเข้าร่างกาย ไม่ว่าจะกินหรือฉีด จึงควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและคำนึงถึงผลข้างเคียงที่มีต่อสุขภาพ เพราะอันที่จริงการมีผิวคล้ำก็มีข้อดีเช่นกัน คือสามารถป้องกันแสงยูวีได้ และที่สำคัญคนที่มีผิวคล้ำมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าคนผิวขาวด้วยซ้ำไป
ลักษณะการใช้กลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาว
กลูต้าไธโอนที่พบในท้องตลาดส่วนใหญ่นั้น มักอยู่ในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งแบบยาเม็ดและผงละลายน้ำสำหรับดื่ม ซึ่งในความเป็นจริงมีผลทำให้ผิวขาวน้อยมาก เพราะสารชนิดนี้จะดูดซึมได้เล็กน้อยและถูกขจัดออกจากร่างกายในที่สุด ดังนั้นประโยชน์ที่จะได้รับจากการทานกลูต้าไธโอนในรูปแบบอาหารเสริมนั้นแทบไม่มีเลย
ต่อมาพบว่ามีผู้นำกลูต้าไธโอนในรูปแบบยาฉีดมาใช้แทนการเสริมอาหาร ดัดแปลงโดยการผสมกับวิตามินซีแล้วฉีดเข้าเส้นเลือดดำหรือกล้ามเนื้อครั้งละ 600 มิลลิลิตร และเนื่องจากผิวที่ขาวขึ้นด้วยกลูต้าไธโอนนั้นเป็นผลข้างเคียงของยาที่เกิดขึ้นชั่วคราว หากต้องการให้ผลคงอยู่ตลอดไป จำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดซ้ำเป็นระยะ ทำให้เกิดการสะสมยาในร่างกายมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้เช่นกัน
นอกจากนี้การฉีดยาจำเป็นต้องกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการให้ยา เช่น การฉีดยาในอัตราที่เร็วเกินไป การติดเชื้อในกระแสเลือดจากเครื่องมือที่ไม่สะอาด การเกิดฟองอากาศอุดตันหลอดเลือด เนื่องจากผู้ฉีดยาไล่ฟองอากาศในเข็มไม่หมด เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้สามารถส่งผลกระทบที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ปัจจุบันสำนักงานอาหารและยา หรือ อย. ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนรับรองการใช้กลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาวแต่อย่างใด และได้ประกาศห้ามใช้เนื่องจากกลูต้าไธโอนทั้งแบบทานและฉีดมีปริมาณกลูต้าไธโอนสูงถึง 500 - 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณที่แพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยใช้คือไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อวัน และอาจทำให้แพ้ยาจนช็อกถึงขั้นเสียชีวิตเฉียบพลัน หรือส่งผลในระยะยาวเช่น สะสมในร่างกายที่ตับ หรือทำให้ไตต้องทำงานหนักในการกำจัดปริมาณที่สูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังเนื่องจากผิวที่ไวต่อแสงแดดเพราะเม็ดสีผิวถูกทำลาย
ที่มา นิตยสาร LIVE
ปรับผิวขาวขึ้น สุขภาพดี
รับเม็ดสีเมลานิน ด้วยกลูต้าแท้จากประเทศญี่ปุ่น
ลดสิว และ ปัญหาผด ผื่น
ช่วยลด และ ป้องกันปัญหา ฝ้า
ต่อต้านอนุมูลอิสระ ริ้วรอยช่วยลดปัญหาผิวด่าง กระด้าง
คืนความชุ่มชื่น ให้ผิวเด้งอิ่มน้ำ ดูขาวใส มีออร่า
รอยหลุม แผลเป็น จากสิวดูตื้นขึ้น ช่วยให้ผิวลื่น นุ่ม น่าสัมผัส
รีวิวจากลูกค้าที่ทานแล้ว
"กินมาก็เยอะน่ะมาเจอตัวนี้โอเคมากเลย เปิดกระปุกมาก็หอมมากจากที่เป็นคนผิวแห้งๆไม่ชอบทาครีมกินตัวนี้ไปรู้สึกชุ่มชื่นขึ้นประทับใจมากคะฝ่าลดลงแต่งหน้าแล้วดูไม่ลอยด้วยนะ ใช้ดีเลยมาบอกต่อนะคะ"
"ผิวลื่นขึ้นแต่งหน้าติด แก้มมีเลือดฝาดด้วยชอบมากคะ"
"ขาวไวมากจุดด่างดำจางลงเร็วด้วย เป็นกลูต้าที่กินแล้วดีสุดๆ กลิ่นหอม"
"ขาวไวมากคะไม่ได้ขาวแบบโบะๆด้วยคือผิวขาวแบบสดใสดูอมชมพูด้วยแก้มออกชมพูมีเลือดฝาด แถมสิวยุบเร็วมากคะกิน2เม็ดก่อนนอนวันที่มีสิวตื่นมาสิวยุบเลย และหอมด้วยเป็นตัวที่กินแล้วดีมี่สุดที่กินมาเลยคะ"
"ดีคะ รุ้สึกผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้นมากเลยคะ"
ดูรีวิวเพิ่มเติมคลิกเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น